วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ด้วย Hiren BootCD


สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์บ่อยๆ คงคุ้นเคยกันบ้างแล้วสำหรับ Hiren BootCD แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยจะรู้จัก Hiren BootCD สักเท่าไหร่ วันนี้เรามี เคล็ดลับดีๆในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ด้วยเครื่องมือดีๆ ซึ่งรับรองว่าสามารถแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ของคุณได้แทบทุกปัญหาอย่างแน่นอน เครื่องมือสำหรับใช้แก้ปัญหาที่ว่านี้ก็คือ Hiren BootCD เครื่องมือที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์นิยมให้ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มากที่สุดตัวหนึ่ง มาทำความรู้จักกันสักหน่อยสิว่า Hiren BootCD นั้นคืออะไร
Hiren BootCD เป็นแผ่นที่ใช้สำหรับ Boot เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้แก้ปัญหาต่างๆ อาทิเช่น เครื่องติดไวรัส หรือมีปัญหาอื่นๆ แม้กระทั่ง  Windows ไม่ทำงาน Hiren BootCD ก็สามารถแก้ปัญหาให้คุณได้ ด้วยการ Boot จากแผ่นนี้ แทนที่จะเข้าสู่โหมด Windows ก่อน  โปรแกรมส่วนใหญ่ที่มาพร้อมกับแผ่น Hiren BootCD ล้วนแล้วแต่เป็น Freeware ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามารถใช้งานได้ฟรี  มาดูความสามารถในการทำงานกันบ้างดีกว่าว่า Hiren BootCD สามารถทำอะไรให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้บ้าง
-          ตรวจสอบและกำจัดไวรัสด้วย  Antivirus Tools
-          มีเครื่องมือในการช่วยแบ็คอัพข้อมูลอย่าง Backup Tools
-          จัดการ BIOS ด้วย  Bios CMOS Tools
-          จัดการไฟล์และท่องโลกอินเตอร์เน็ตด้วย  Browser & File Manager
-          จัดการไฟล์ขยะที่มีอยู่ในเครื่องด้วยเครื่องมือ Cleaners
-          แก้ไขและจัดการ Files Systems Tools
-          แก้ไขและจัดการ Editor Tool ด้วยโปรแกรม Editors / Viewers
-          เครื่องมือจัดการ Hard Disk
-          แก้ปัญหาการ Boot โดย MBR Tools
-          จัดการระบบ DOS โดย MS DOS Tools
-          Network Tools จัดการระบบเครือข่าย
-          Optimizers ปรับปรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
-          Partition Tools ใช้สำหรับจัดการแบ่ง Partition บนดิสก์
-          เครื่องมือในการจัดการ รหัสผ่าน (Password Tools)
-          จัดการเรื่อง process ด้วย Process Tools
-          แม้กระทั้งต้องการกู้ไฟล์เดิมคืนก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงใช้ Recovery Tools
-          เครื่องมือสำหรับจัดการกับข้อมูลที่เป็นความลับ (Security / Encription Tools)
และอื่น ๆ อีกมากมาย Hiren BootCD นับว่าเป็นการรวมเอาโปรแกรมในการจัดการกับปัญหาของเครื่องคอมพิวเตอร์มารวมเอาไว้ในแผ่นๆ เดียว และเป็นการรวมโปรแกรมเอาไว้มากที่สุด  ในกรณีที่ยังไม่มีแผ่น Hiren BootCD คุณสามารถ download ได้ที่ http://www.hirensbootcd.org/download/  ไฟล์อาจจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และใช้เวลาในการ download ค่อนข้างนาน เนื่องจากมีข้อมูลอยู่เป็นจำนวนมาก  สำคัญที่สุด เมื่อทำการ download เสร็จแล้ว ควรไรท์เก็บในแผ่น CD ก่อน จึงจะสามารถนำมาใช้งานได้
สำหรับวิธีการใช้งานแผ่น Hiren BootCD มีดังนี้
ใส่แผ่น Hiren BootCD และ Restart Windows กดปุ่ม ESC, F2, F9 หรือคำสั่งใดๆ ก่อนเข้า Windows เพื่อให้เกิดการ boot จากแผ่น CD ก่อน และทำตามคำสั่งที่ขึ้นตามหน้าจอ  สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งาน Hiren BootCD ล่ะก็ แนะนำให้ศึกษาวิธีการใช้งานอย่างระมัดระวัง เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจส่งผลต่อการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์คุณเป็นอย่างมาก เช่น อาจทำให้ข้อมูลสำคัญๆ หายไปโดยไม่รู้ตัว หากใช้งานอย่างไม่ถูกวิธี จึงไม่ค่อยแนะนำให้มือใหม่หัดซ่อมคอมทดลองใช้สักเท่าไหร่ เพราะดูค่อนข้างจะเสี่ยงพอสมควร แต่หากต้องการใช้ล่ะก็ ควรมีการสำรองข้อมูลเอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูล มิเช่นนั้นแล้ว คุณอาจต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง เมื่อข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณหายไป


เครดิตบทความ: http://viruscom2.com/2012/%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2-hiren-bootcd/

โปรแกรมแปลงไฟล์ Total Video Converter สุดยอดโปรแกรมแปลงไฟล์


โปรแกรมที่หลายคนต้องรู้จักกันแน่นอนครับด้วยความสามารถที่เปี่ยมล้นและมาคราวนี้มาพร้อมความสามารถใหม่ๆอีกมากมายที่จะทำให้เราสามารถแปลงไฟล์ ภาพเคลื่อนไหวและไฟล์เสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะแปลงได้หลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นการแปลงไฟล์วีดิโอลงอุปกรณ์อื่นเช่น 3gp, mp4,psp,ps3ipod,ipad,iphone และอีกมากมายซึ่งก็สามารถแปลงให้เป็น VCD หรือ DVD รวมไปถึงเครื่องเล่นอย่าง xbox 360 ด้วย
ความสามารถใหม่ๆกับ Video Converte4 v3.60
- สามารถตัดต่อเบื้องต้นได้โดยแสดงลักษณะแบบเฟรมต่อเฟรม(ละเอียดมากนั้นเอง)
- ไฟล์ FlashVideo (.flv) นั้นรองรับแล้วบน Window 7
- ไฟล์ FlashVideo (.flv) รองรับการแปลงเป็น MP4
- รองรับไฟล์และปรับไฟล์วิดีโอตระกูล Mts,M2TS,avi,rm
- รองรับความเสียง 16k แบบ Nelly Moser audio
ความสามารถที่มาอยู่แล้วกับ v3.50
- แปลงไฟล์วีดิโอเป็นไฟล์ AVCHD ซึ่งสามารถใช้กับเครื่อง PS3และเครื่องบลูเรย์ได้ และก่อยังสามารถแปลงไฟล์HD และ AVCHD (.mts,.m2ts,.ts)ซึ่งสามารถแปลงกลับเป็นไฟล์สกุลอื่นเช่นกัน
แปลงไฟล์ HD เช่น .H264 TS,Mpeg-2,WMV-HD,MKV-HD,DivX-HD,Xvid-HD,MOV-HD และ MP4-HD – แปลงไฟล์ และ สร้างแผ่น WMV-HD ลง DVD ซึ่งสามารถเล่นบน xbox360ได้(โอ้วสบาย)
- สามารถแปลงไฟล์เป็นแผ่น DivX-DVD ซึ่งเป็นไฟล์ขนาดเล็กกว่าและสามารถเล่นบนเครื่องเล่นที่รองรับไฟล์ตระกูลนี้ได้
- มาพร้อมกับเครื่องมือบันทึกวิดีโอเวลาเล่นเกมด้วย(เด็ดมากๆ)

ความสามารถหลักๆที่มีอยู่แล้วในตัวเวอร์ชั่นเก่าๆ
-          สามารถแปลงไฟล์วิดีโอทั้งไฟล์วิดีโอในมือถือและไฟล์เสียง เช่น (mp4, 3gp, xvid, divx mpeg4 avi, amr audio) ซึ่งมักใช้ ในมือถือ PDA, PSP, iPod, iPhone, Xbox360, PS3 อื่นๆ
-          สามารถแสดงสไลด์โชว์แบบหลากรูปภาพประกอบกับไฟล์เสียงซึ่งมีมากกว่า300รูป Transitio(ตัวเชื่อมเวลาตัดต่อไฟล์วีดิโอ)
-          แปลงไฟล์ MPEG สามารถรองรับได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น DVD/SVCD/VCD
-          สามารถ rip DVD ให้เป็นไฟล์สกุลต่างๆได้
-          แปลงไฟล์วีดิโอให้กลายเป็นไฟล์เพลงได้หลายสกุล (mp3,ac3,ogg,wav,acc)
-          สามารถทำการแปลง CD มาเป็นไฟล์เสียงได้เลย
-          สามารถจับไฟล์เสียงและวีดีโอมาไว้ด้วยกันได้

มาดูรีวิวกันดีกว่าครับ
Total converter นั้นเป็นโปรแกรมจากบริษัท EffectMatrix เป็นหนึ่งในโปรแกรมแปลงไฟล์วีดีโอสุดยอดทั้งประสิทธิภาพและ ค่าตัว 40เหรียญประมาณ 1200 บาทไทยซึ่งเราได้นำไว้ใน 1ใน 10อันดับโปรแกรมแปลงไฟล์สุดยอกของเราเลยแต่อย่างไรก็ตามนั้นเราจะด่วนสรุปตัดสินใจไม่ได้เลยนะครับท่านผู้อ่านต้องมาดูทั้งความสามารถและการใช้งงานของเจ้านี่กันก่อนดีกว่า

ด้านที่ 1 ความสามารถในการรองรับไฟล์ที่สามารถแปลงได้ Input file อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม
สำหรับ Total video Convert นั้นด้วยความสามารถอย่างที่หลายคนรู้กันที่สามารถรองรับไฟล์หลักๆได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นไฟล์สกุล WMV(Window media player) , AVI ,MOC(Quick time), RM (RealMedia), และ VOB (DVD) และไฟล์จาก Youtube หรือ Flash FLV นั้นเอง
ซึ่งเราสามารถนำไปแปลงได้หลายอย่างด้วยการรองรับไฟล์ที่ลหากหลายนั้นเองจะทำให้เราสามารถที่จะทำการแปลงไฟล์ DVD ให้เป็น mini DVD ก็ได้ หรือว่าจะแปลงไฟล์ เสียงจากไฟล์หนึ่งเพื่อไปรวมกับไฟล์วีดีโออีกไฟล์หนี่งก็ย่อมได้ซึ่งนอกจากนี้ยังสามารถที่จะนำไฟล์หนังที่เราชื่นชอบไปแปลงเป็นไฟล์ตระกูลเครื่องเล่นพกพาเพื่อนำไปดูข้างนอกได้อีกด้วย

ด้านการแปลงไฟล์ออกไปเพื่อใช้ในนามสกุลอื่น (out put file) : เกณฑ์ดีเยี่ยม
ต้องบอกเลยว่าคราวนี้ Total Video Converter นั้นไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆเพราะว่าการปรับปรุงเป็น v3.60นี้ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงด้านอินเตอร์เฟสที่มีการแบ่งประเภทอุปกรณ์ที่รองรับอย่างเช่นปุ่ม Mobile ที่สามารถในการแปลงไฟล์แบบรวดเร็วและง่ายดายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้แถมยังเหมาะกับผู้ใช้มือใหม่อีกด้วยนะครับ
 
เห็นได้ว่าโปรแกรมง่ายต่อการใช้งานด้วยรูปภาพที่บอกว่าเราจะสามารถนำไฟล์ที่แปลงไฟใช้กับอะไรได้เลยนั้นเองครับ
การบอกความก้าวหน้าในการแปลงไฟล์ก็เป็นเรื่องสะดวกอย่างหนึ่งอีกทั้งยังมีโหมด BACK GROUND CONVERTING ที่ทำให้เราสามารถนำโปรแกรมไปทำงานบนพื้นหลังเพื่อไม่ให้ขึ้นมารกบนหน้าจอเราได้ด้วย
ความสามารถ : ดีเยี่ยม
ถึงแม้ว่าทางโปรแกรมนั้นจะมีการรองรับเครื่องเล่นต่างๆอยู่แล้วแต่ว่าในส่วนของการตั้งค่านั้นต้องบอกเลยว่ายุ่งยากพอสมควรเพราะเราต้องลงมือตั้งค่าเองเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นขนาดไฟล์ความละเอียดของหน้าจอ ซึ่งเราจะเห็นจุดบอดในด้านการรองรับการแปลงไฟล์ออกมาเป็นนามสกุล ของ Real Player และ Vob ของ DVD ได้อย่างชัดเจน
ซึ่งในส่วนของโปรแกรม Total Video converter นั้นเนี่ยสามารถที่จะแปลงไฟล์ได้คราวละหลายไฟล์ Batch file นั้นเองซึ่งในส่วนของการตั้งค่านั้นเราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนในส่วนของ resolution, video and audio codices, video and audio bitrate, sample rate, framerate และเลือกที่จะเอาเฉพาะไฟล์เสียงออกมาก็ได้
และที่สำคัญเราสามารถที่จะแปลงแล้วทำการ burn หรือ คัดลอกลงแผ่น CD DVD SVCD VCD ได้เลยโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมอื่นๆแต่อย่างใด
(ความสามารถในการปรับเปลี่ยนส่วนต่างที่เรียกได้ว่าละเอียดมากเลยทีเดียว)
และนั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าถึงงแม้ว่าโปรแกรมอื่นๆนั้นจะมีการใช้ความสามารถใหม่ๆเข้ามาแต่ว่าสำหรับ Total Video Converter นั้นกลับให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปเพราะผู้ใช้จะสามารถควบคุมการแปลงไฟล์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นการแปลงนามสกุลไฟล์ การตั้งค่าการแปลงในส่วนของความละเอียด อัตราส่วนการแสดงผล รูปแบบการแสดงผลไม่ว่าภาพและเสียง การรวมไฟล์เข้าด้วยกัน จะมีก็เพียงแต่การปรับเปลี่ยน ความสว่าง(Brightness) ค่าความเข้มแสง(Contrast)และ ค่าEffect ของวีดิโอเท่านั้น

การนำไปใช้จริง : เกณฑ์ดี
พอมาถึงการใช้จริงกันบ้างนะครับพอมาถึงการใช้จริงนั้นกลับพบปัญหาในส่วนต่างๆเช่นเมื่อเราพยายามที่จะแปลงไฟล์วีดีโอสักตัวนึงแต่เมื่อพบกับไฟล์ที่โปรแกรม Total Video converter Tool ไม่สามารถรองรับได้นั้นโปรแกรมกลับทุกตั้งให้งอลผู้ใช้ด้วยการ ยกเลิกกระบวนการทั้งหมดและปิดตัวเองไปซะเฉยๆ (งอลทำไมฟะใช้ว่าได้มาฟรี 1200 บาทเชียวนะ)และนอกจากนี้ยังมี Total FLV Sniffer ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งที่เอาไว้ให้เราดึงไฟล์ flv จากเว็บมาได้เลยไม่ว่าจะเป็น Youtube หรือเว็บไรก็ตามแต่ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเราพบว่ามันไม่ได้ใช้การได้เต็มประสิทธิภาพสักเท่าไหร่นักเพราะเมื่อไปใช้จริงแล้วก็มักจะไม่สามารถดึงไฟล์อะไรมาได้เลย(เนื่องจากปัจจุบันไฟล์ใน YOUTUBE.com นั้นติดลิขสิทธ์เกือบทั้งหมด)ทำให้เครื่องมือนี้ไร้ประโยชน์ไปโดยปริยายแถมเมื่อถามไปยังบริษัทผู้ผลิตกลับไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจนัก

ส่วนการช่วยเหลือและสนับสนุน : แย่
โชคร้ายสำหรับผุ้ใช้ที่เมื่อเปิดไปเจอกับการช่วยเหลือที่มีน้อยเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคู่มือการใช้งานที่มีอะไรบอกเราน้อยละเกิน ซึ่ง เราจะพบเพียงแค่คู่มือเล็กๆโง่ๆที่บอกเราถึงการใช้โปรแกรมลวกๆปัญหาและการแก้เล็กๆและ อีเมล์ที่สามารถติดต่อได้ทาง Yahoo ซึ่งไม่เคยสามารถที่จะตอบเราได้จริงๆซะทีเพราะอย่างปัญหาเรื่อง Sniffer Tool นั้นเมื่อส่งไปแล้วอีกนานหลายวันกว่าจะตอบและคำตอบก็ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจแก่ผู้ใช้เลยเพราะมันไม่ได้ตอบคำถามของเราจริงๆ

สรุป
Total Video Converter นั้นเรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีในการใช้งานแต่ด้วยข้อจำกัดในตัวมันเองรวมถึงความคุ้มค่านั้นเราแนะนำให้คุณใช้โปรแกรมอื่นก็ได้ซึ่งในราคา 1200บาทนี้หากคุณไม่ได้ใช้โปรแกรมอะไรที่มันต้องมากมายล้นเหลือผู้เขียนแนะนำ Format Factory ซึ่งถูกกว่ามากเพราะฟรีแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรแกรมแต่ละตัวก็มักมาพร้อมกับความสามารถที่แตกต่างออกไปดังนั้นผู้ใช้จึงเลือกที่จะใช้ให้ถูกกับความต้องการของตัวเองด้วยนะครับ
ทางเลือกอื่น : Format Factory ก็ดีนะสำหรับการแปลงไฟล์เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าตัว 1200 บาท



เครดิตบทความ: http://viruscom2.com/2012/%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%a5%e0%b9%8c-total-video-converter-%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%a5%e0%b9%8c/

Scan Virus Online สแกนไวรัสออนไลน์ฟรีกัน


Scan Virus Online สแกนไวรัสออนไลน์

   การ scan virus online เป็นการ scan virus ผ่านทางเว็บของผู้ผลิตเองโดยที่เราไม่มีความจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ตัวเครื่อง การทำอย่างนี้มีข้อดีคือ
1.ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เครื่องของเรา
2. เป็นการให้บริการฟรี ดังนั้นเราจึงไม่ต้องเสียเงินไปกับโปรแกรมป้องกันไวรัสแพงๆ
แต่แน่นอนเมื่อ scan virus online มีข้อดีแล้ว scan virus online ก็ต้องมีข้อเสียคือ
1.ช้ากว่าจะเสร็จนานพอสมควร
2.บางอัน scan แล้วไม่สามารถทำการลบได้
3.ขั้นตอนการดำเนินการยุ่งยาก
*หมายเหตุ ควรทำงานในบราวเซอร์ที่เป็นเวอร์ชั่นมาตราฐานเพราะถ้าหากใช้รุ่นที่เก่าเกินไปอาจจะทำให้เว็บไซต์สแกนไวรัสออนไลน์ไม่สามารถทำงานได้

  • เช็คระดับความปลอดภัยได้ถ้ามีโปรแกรม Bitdefender ติดตั้งอยู่
  • ฐานข้อมูลอัพเดทสม่ำเสมอ
  • ใช้งานได้ง่าย
  • เบา
  • เร็ว


  • ทำงานได้ใน 1 คลิกไม่มีการกรอกข้อมูลหรือสมัครสมาชิกใดๆทั้งสิ้น
  • สามารถตรวจจับไวรัสที่ไม่มีในฐานข้อมูล, หนอนอินเตอร์เน็ต(Worm), โทรจัน สปายแวร์และอื่นๆอีกมายมาย
  • อัพเดทอยู่อย่างสม่ำเสมอ
  • สามารถค้นหาแบบละเอียด (Deep Scan)

  • ความสามารถในการเช็คไฟล์ที่สงสัยว่าเป็นไวรัสได้ แต่ขนาดต้องไม่เกิน 16 MB

  • ความสามารถในการตรวจสอบที่มากกว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบธรรมดา
  • ตรวจสอบช่องโหว่และภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก
  • ใช้งานได้ง่ายและอัพเดทได้โดยอัตโนมัติ
  • แสดงรายงานเกี่ยวกับสถานะของคอมพิวเตอร์
  • รองรับวินโดว์ 7 และบราวเซอร์ต่างๆ



  • เป็นตัวที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการค้นหาโทรจันโดยเฉพาะ

  • เมื่อเข้าไปแล้วนั้นก็จะพบกับหน้าต่างที่สามารถเลือกได้ว่าต้องการที่จะตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องหรือว่าตรวจจับไวรัสในเครื่อง

เปิด REGEDIT ไม่ได้

ปัญหาในการเปิด Regedit ไม่ได้ พอจะเข้าก็มาบอกว่าเราไม่ใช่ admin ซะอีกไวรัสตัวแสบเข้าไปปิดการทำงานเอาไว้ เพราะ Regedit เป็นเครื่องมือที่สำคัญของ Windows เลยก็ว่าได้ ปรับแต่งแก้ไขตรงไหนก็จะส่งผลโดยตรงกับ Windows ค่ะ แล้วจะทำยังไงละทีนี้ ดิฉันมีเทคนิคดีๆมาฝาก

เปิดโปรแกรม Group Policy
Regedit

ตรง User Configuration>>>>Administrative Templates>>>>System

มองทางด้านขวาหาชื่อ Prevent access to registry editing tools 


เลือกตรง Disable แล้วกด OK เป็นอันจบค่ะ




แล้วถ้าเกิดว่าเราเข้า CMD ไม่ได้ด้วยก็ให้ลองแก้ตามนี้นะค่ะ

User Configuration>>>>Administrative Templates>>>>System

แล้วมองหา  Prevent access to the command prompt

แก้เป็น Disable แล้วกด OK

ปัญหาต่างๆก็จะหมดไปเครื่องของคุณก็จะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งค่ะ ของคุณที่ติดตามนะค่ะ

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

8 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ด้วย"กระป๋องเบียร์"

8 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ด้วย"กระป๋องเบียร์"
          สำหรับคุณผู้อ่านที่รู้สึกว่า สัญญาณ Wi-Fi ของเราท์เตอร์ที่บ้านไม่แรงพอ ทดลองทำตาม 8 ขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้ดู บางทีอาจช่วยให้สํญญาณ Wi-Fi แรงขึ้นจาก 2 แท่งเป็น 4 - 5 แท่งเลยก็ได้ ที่สำคัญมันใช้แค่กระป๋องเบียร์ หรือกระป๋องเครื่องดืมน้ำอัดลมทั่วไปกับเครื่องไม้เครื่องมือไม่กี่ชิ้นเท่า นั้น นับเป็นไอเดียที่ฉลาดมากทีเดียว แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ว่าแล้วไปติดตามรายละเอียดการทำกันเลยดีกว่าครับ

          1. ขั้นตอนแรกให้คุณเตรียมอุปกรณ์ และต้องใช้ ซึ่งประกอบด้วย กระป๋องน้ำอัดลมที่ทำจากอะลูมิเนียม กรรไกร คัทเตอร์คมๆ และดินน้ำมันกาว (Blu tack) ดังรูป

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-1

         2. ทำความสะอาดกระป๋องด้วยน้ำสะอาดจนมั่นใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ภายใน

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-2

         3. ดึงวงแหวนที่ปากกระป๋องทิ้งไป

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-3

         4. ใช้คัทเตอร์ตัดก้นกระป๋องออกไปดังรูป

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-4

         5. หลังจากนั้นนำคัทเตอร์มาตัดอีกด้านหนึ่งของกระป๋อง (ด้านที่ดึงวงแหวนออกไป) แต่ต้องตัดไม่ครบวงรอบ โดยเหลือช่วงที่ไม่ตัดให้ขาดออกใกล้ๆ กับช่องที่ใช้ปากดื่ม ข้อสังเกตคือ ระยะที่ตัดพยายามให้อยู่ใกล้ขอบกระป๋องมากที่สุดดังรูป

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-5

         6. นำกรรไกรมาตัดข้างกระป๋องเป็นเส้นตรง โดยตำแหน่งที่ตัดจะอยู่ตรงข้ามกับด้านที่ติดขอบกระป๋อง

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-6

         7. ค่อยๆ ใช้มือกางกระป๋องที่ตัดให้กว้างออกมาคล้ายๆ กับจานเรดาร์รับสัญญาณ

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-7

         8. ติดดินน้ำมันกาวที่ด้านล่างองกระป๋อง แล้วนำกระป๋องไปสวมลงบนเสาอากาศของเราทเตอร์ผ่านทางช่องที่ใช้ปากดื่ม โดยดินน้ำมันกาวจะยึดปากกระป๋องเข้ากับด้านบนของเราท์เตอร์ จากนั้นจัดตำแหน่งให้เหมือนในรูปข้างล่างนี้

Wi-Fi-Booster-made-by-Beer-can-or-Coke-can-8

          หลังจากทำเสร็จแล้ว ทดลองเปิดเราท์เตอร์ให้ทำงาน แล้วสังเกตแท่งสัญญาณที่แสดงบนทาสก์บาร์ของ Windows บนโน้ตบุ๊คของคุณ โดยพยายามหันด้านทีสะท้อนสัญญาณของเสามาให้ตรงกับโน้ตบุ๊ค ลองดูว่า แท่งสัญญาณจะเพิ่มขั้นหรือไม่? ขอให้คุณผู้อ่านของเว็บไซต์ arip ที่่ลองทำตาม สามารถเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ได้แรงขึ้นดังที่ใจต้องการ โดยทั่วกันนะครับ

  

ที่มา : arip.co.th

แยกเสียงออกจากไฟล์วิดีโอด้วยโปรแกรม GOM Player


  หากว่าเราต้องการจะแยกเสียงเพลงออกจากไฟล์วิดีโอ เพื่อเก็บเอาไว้ฟังกับเครื่องเล่นต่าง ๆ สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยครับด้วยโปรแกรมยอดฮิต Gom Player ซึ่งโปรแกรมนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงใช้งานอยู่ เป็นฟรีแวร์ที่น่าสนใจมากโปรแกรมหนึ่งเลยครับ กินทรัพยากรเครื่องเราน้อยมาก แถมยังสามารถอ่านไฟล์ได้หลายนามสกุลอีกด้วย เรามาดูวิธีดึงเสียงออกจากวิดีโอกันดีกว่า

วิธีแยกเสียงออกจากไฟล์วิดีโอด้วยโปรแกรม GOM Player
            - คลิกขวาบนไฟล์วิดีโอที่เปิดเล่นอยู่ ด้วยโปรแกรม Gom Player

Advanced_Audio_Capture-1
            1. เราสามารถเลือกที่จัดเก็บไฟล์เสียงได้
            2. เลือกรูปแบบนามสกุลไฟล์เสียงที่อยากได้หลังการ Capture
            3. กรณีที่เราต้องการให้ Capture ตั้งแต่การเปิดไฟล์วิดีโอ
            4, 5หากเราต้องการ Capture แค่บางส่วนของวิดีโอ เช่น ช่วงพระเอกสนทนา ฯลฯ ไม่ต้องติ๊กเครื่องหมายที่กรอบสี่เหลี่ยม และให้ใช้ปุ่ม Start/Stop แทน
            6. ไปยังที่เก็บไฟล์ที่เราได้ Capture เอาไว้

Advanced_Audio_Capture-2

เคล็ดลับการกู้คืนแบตเตอรี่ iPhone


 คุณผู้อ่านเคยเจออาการแบบผู้เขียนบ้างไหมครับ คือเวลาที่ออกมาทำงาน หรือ เรียนหนังสือ เผลอเล่นเจ้า iPhone ซะเพลิน จนลืมคำนวนแบตเตอรี่ให้พอใช้ได้ตลอดทั้งวัน พอนึกขึ้นได้ ก็เจอกับไอค่อนแบบเตอรี่สีแดง พร้อมกับจำนวนของ แบตเตอรี่ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อยู่ข้างนอกบ้าน จะหาที่ชาร์ตก็เป็นได้ยากแน่ๆ ทีนี้ล่ะก็งานเข้ากันอย่างแน่นอน วันนี้เลยขอเสนอวิธีประหยัด แบตเตอรี่ ยามฉุกเฉิน 10 วิธีด้วยกัน จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลยครับ

10 เคล็ดลับกู้ แบตเตอรี่ iPhone
recovery-iphone-battery-01
1.ปิดการค้นหาสัญญาณ 3G
            เพราะการเปิดการทำงานผ่านระบบ 3G ต้องใช้พลังงาน แบตเตอรี่ iPhone มากกว่าปกติ ทางที่ดีถ้าไม่ได้ใช้งาน หรือ ใช้งานที่ไม่ได้ต้องการความเร็วมากๆ ลองปิดระบบ 3G โดยเข้าไปที่ Setting > General > Network > Enable 3G = OFF

recovery-iphone-battery-02
2.ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi
           แม้จะไม่ได้ใช้สัญญาณ Wi-Fi อยู่ แต่ถ้าหากเปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi ไว้ โดยปกติแล้ว iPhone จะมีการค้นหาสัญญาณ Wi-Fi อยู่เป็นระยะ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ เข้าไปปิดได้ที่  Setting > Wi-Fi = OFF

recovery-iphone-battery-03
3.ปิด Personal Hotspot
           ในหัวข้อนี้คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะเจอบ้างไม่เจอบ้าง เนื่องจาก Personal Hotspot จะมีเพิ่มเข้ามาใน Firmware 4.3 ขึ้นไป ดังนั้นหากท่านใดที่เปิดไว้ แล้วไม่ได้ใช้งาน ควรปิดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่เคยต่อกับ iPhone ไว้แล้วมีการต่อสัญญาณไปยังอินเตอร์เน็ตโดยไม่รู้ตัว โดยเข้าไปที่ Setting > Personal Hotspot = OFF

recovery-iphone-battery-04
4.เลือกเปิดเฉพาะ Noticfication ที่จำเป็น
            การที่เครื่อง iPhone ต้องเช็คกับ Server ของทาง Apple เพื่อขึ้นข้อความ Noticfication ตลอดเวลา ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ แบตเตอรี่ iPhone หมดไว ควรเลือกเปิดเฉพาะ Noticfication ที่จำเป็น หรือหากไม่ต้องการใช้จะปิดไปเลยก็ได้ โดยเข้าไปที่ Setting > Noticfications = OFF (หรือเลือกเปิด-ปิดเฉพาะ Application ที่ต้องการ)

recovery-iphone-battery-05
5.ปิดการใช้ Location Service
            Location Service คือการอ้างอิงตำแหน่งของเครื่อง ตามตำแหน่งดาวเทียม GPS หรือ Cell site ในกรณีที่เปิด Application ที่ต้องการร้องขอตำแหน่งของตัวเครื่อง แน่นอนว่าก็เป็นการเปลืองพลังงาน แบตเตอรี่ iPhone อีกเช่นกัน ในกรณีที่คุณไม่ต้องการใช้งานให้เข้าไปปิดได้ที่ Setting > Location Services = OFF (หรือเลือกเปิด-ปิดเฉพาะ Application ที่ต้องการ)

recovery-iphone-battery-06
6.ปรับระดับความสว่างของจอให้พอเหมาะ
           ปกติแล้วหน้าจอของ iPhone จะมีเซ็นเซอร์ที่คอยวัดแสงของสภาพแวดล้อม และปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม แต่ในกรณีที่ แบตเตอรี่ iPhone ใกล้หมดจริงๆ การปิดโหมดการวัดแสง ก็ช่วยรักษาระดับพลังงาน แบตเตอรี่ iPhone ได้เช่นกัน โดยเข้าไปปรับได้ที่ Setting > Brightness > Auto-Brightness = OFF (แต่ควรปรับระดับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมด้วยตนเอง ซึ่งถ้าเป็นสว่างกว่าความจำเป็น ก็เป็นการเปลือง แบตเตอรี่ iPhone อีกเช่นกัน)

recovery-iphone-battery-07
7.ปรับรอบการเช็ค Push เมล์
            ถ้าคุณผู้อ่านเปิดระบบ Fetch ไว้ (การแจ้งเตือน Email ใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน) ซึ่งจะมีรอบของการเช็คให้เลือก 15 นาที, 30 นาที และ Hourly ด้วยกัน ถ้าไม่ได้รอรับอีเมล์สำคัญจริงๆ ก็ควรเปลี่ยนระบบนี้ไปที่ Manually คือจะเช็คก็ต่อเมื่อมีการเปิด Application ของ Email เท่านั้น โดยเข้าไปที่ Setting > Mail, Contacts, Calendars > Fetch New Data > Fetch = Manually

recovery-iphone-battery-08
8.ปิด Applicaiton ที่ค้างใน Multitask
            แม้ว่าจะไม่ได้เปิด Application นั้นไว้แล้วก็ตาม แต่ถ้า App ใดที่สนับสนุนการทำงานแบบ Background ก็ย่อมทำให้เครื่องต้องรับภาระประมวลผลเพิ่มเช่นกัน จึงยิ่งทำให้ต้องศูนย์เสียพลังงานโดยปล่าวประโยชน์ ดังนั้นก็ควรปิด App ที่ไม่จำเป็นซะ โดยกดที่ปุ่มโฮมไวๆ 2 ครั้ง จากนั้นกดที่ไอค่อนข้างไว้ 2-3 วินาที และกดปุ่มเครื่องหมายลบ

recovery-iphone-battery-09
9.ปิด Bluetooth
            Bluetooth ของ iPhone นั้น เป็นแบบ Discoverable (สามารถมองเห็นจากเครื่องอื่นได้ตลอดเวลา) ดังนั้นย่อมใช้พลังงานในการส่งสัญญาณออกไปตลอดเวลา จึงควรปิดเมื่อไม่ต้องการใช้ โดยเข้าไปที่ Setting > General > Bluetooth = OFF

recovery-iphone-battery-10
10.ไม้ตายสุดท้าย ปิดสัญญาณ Cellular Data
            ถ้าหากฉุกเฉิน ถึงขั้นที่ แบตเตอรี่ iPhone ใกล้หมดเต็มที แต่ยังจำเป็นต้องใช้ iPhone โทร-เข้าออกอยู่ ก็ต้องเสียสละในส่วนของสัญญาณ Internet ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ (Cellular Data) เพราะถึงแม้จะใช้งาน Internet ไม่ได้ แต่ก็ยังต่ออายุให้ iPhone สามารถโทร-เข้าออกได้ไปอีกระยะหนึ่ง โดยเข้าไปที่ Setting > General > Network > Cellular Data = OFF

ข้อมูลจาก : arip

Windows Explorer Has Stopped Working วิธีแก้

Windows Explorer Has Stopped Working วิธีแก้
          เวลาที่เปิดเข้าโฟล์เด้อแล้ว จะเข้าไม่ได้ และจะขึ้นคำว่า Windows Explorer Has Stopped Working หลังจากนั้นเครื่องจะเริ่มทำงานใหม่ ซึ่งเรามาดูวิธีแก้ไขกันครับ

วิธีแก้ Windows Explorer Has Stopped Working อันแรก
          1. ให้คลิกที่ Start Menu แล้วคลิกที่ Computer

Windows_Explorer_Has_Stopped_Working-1

          2. คลิกที่ Organize ดังภาพ จะมีเมนูขึ้นมาให้คลิกที่ Folder and search options

Windows_Explorer_Has_Stopped_Working-2

          3. จะปรากฏหน้า folder option บริเวณแท็บด้านบนให้เราคลิกที่แท็บ View แล้วติ๊กเลือก Always show Icons, never thumbnail ต่อจากนั้นติ๊กเครื่องหมายถูกออกหน้า Display files Icon on thumbnails
          4. เสร็จแล้วคลิก OK

Windows_Explorer_Has_Stopped_Working-3

วิธีแก้ Windows Explorer Has Stopped Working วิธีที่ 2
          หากวิธีแก้อันแรกทำแล้วยังไม่หาย ให้ลองทำตามคลิปวิดีโอข้างล่างดูครับ

    

iSpring แปลงไฟล์ PowerPoint เป็น Flash

iSpring แปลงไฟล์ PowerPoint เป็น Flash
           ต่อจากบทความที่แล้ว วิธีการติดตั้ง iSpring คราวนี้เรามาดูวิธีการใช้งานโปรแกรม iSpring แปลงไฟล์ PowerPoint ไปเป็นไฟล์ Flash กันครับ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอน วิธีการแปลง
           1. ให้เราเปิดไฟล์งาน PowerPoint ที่ต้องการแปลงไฟล์ขึ้นมาก่อนครับ
           2. ให้คลิกที่แท็บ iSpring Free
           3. หลังจากนั้นกดปุ่ม Publish

PowerPoint_to_Flash-9

           4. เราสามารถเลือกที่จัดเก็บไฟล์หลังการแปลงได้ครับ โดยกดปุ่ม Browse...
           5. เมื่อตั้งค่าต่าง ๆ แล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Publish

PowerPoint_to_Flash-10

           6. รอสักครู่ ขั้นตอนนี้โปรแกรม iSpring กำลังทำการแปลงไฟล์ให้อยู่ครับ

PowerPoint_to_Flash-11

           7. ไปที่เราตั้งค่าให้โปรแกรมจัดเก็บไฟล์ไว้ครับ ก็จะได้ไฟล์ Flash ที่เราต้องการแล้วครับ ง่ายมากๆ เลย

PowerPoint_to_Flash-12