วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

ติตตั้ง Windows Phone 7 และ Android ใน hTC HD2


วันก่อนได้ hTC HD2 มา เป็นเครื่องมือสอง ลองตรวจสอบดูพบว่าเป็นรุ่นที่ขายกับ NEXT G Telstra Telecom ของออสเตรเลีย มาพร้อมกับ Windows Mobile 6.5 แต่ปลดล็อกแล้ว (หรือเขาไม่ล็อกอันนี้ไม่รู้) ได้มาปุ๊บลองเล่น Windows Mobile นิดหน่อย ลองเซ็ต EDGE/GPRS ดูแล้ว แต่ใช้ไม่ได้ (ทั้ง ๆ ที่ตั้งค่าแบบเดียวกับเครื่อง ASUS P526 ที่ใช้อยู่ทุกอย่าง) แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะผมตั้งใจจะจับมันมาลง Windows Phone 7 และ Android ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว : D
ผมอ่านข้อมูลของ hTC HD2 มาพักนึงแล้ว ครั้งนี้เป็นการได้ลองทำจริง ๆ ตื่นเต้น กลัวมัน brick... ข้อมูลการลง ROMs อ่านมาจากหลาย ๆ เว็บ รวบรวมจนได้มาเป็นแบบนี้

คำเตือน

  • ข้อมูลทั้งหมดนี้อ้างอิง Windows 7 และ hTC HD2 รุ่นที่ไม่ใช่ของ T-Mobile เป็นหลัก
  • ถ้าคุณใช้ hTC HD2 ของ T-Mobile กรุณาอ่านโพสต์นี้สักนิด
  • และเหมือน ๆ กับทุกเว็บ ผมไม่รับประกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับมือถือของคุณ กรุณาศึกษาให้เข้าใจก่อนลงมือปฏิบัติครับ

การเตรียมการ และติดตั้ง Boot Loader

กุญแจสำคัญสำหรับการติดตั้ง ROM ที่เป็น home brew ระบบ Dual-boot
  • ก่อนอื่นต้องชาร์จแบตของมือถือให้เต็ม 100% ก่อนที่จะทำอะไรกับเครื่อง ใส่ microSD เข้าเครื่องให้เรียบร้อย (ถ้าลงทั้ง 2 OS ขนาดพื้นที่ของ microSD จะถูกหารสอง และเปลี่ยนภายหลังไม่ได้ง่าย ๆ)
  • ตรวจสอบ SPL ว่าเป็นเวอร์ชั่นไหนโดยการกดปุ่ม Volume Down ค้างไว้ตอนที่เปิดเครื่อง (ของผมเป็น SPL 1.66.0000)
  • กดปุ่ม Reset หลังเครื่อง เพื่อบูตเข้า Windows Mobile ตามปกติ
  • ต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ (ผมใช้ Windows 7) ผ่านทาง USB รอให้ Windows ติดตั้งไดรเวอร์ให้เรียบร้อย
  • สำหรับคนที่ไม่ได้เชื่อมต่อ Windows Mobile เข้ากับ Windows เลยอาจจะต้องติดตั้ง Windows Mobile Device Center เป็นเวอร์ชั่นใหม่ (6.1) ก่อน (ผ่าน Windows Update ก็น่าจะได้) ถ้าให้ดีติดตั้งให้ตรงกับ Windows ของคุณว่าเป็น 32 bit หรือ 64 bit
  • ปิดโปรแกรม Antivirus ต่าง ๆ ของคุณทิ้งไปก่อน (เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น!)
  • หลังจาก Windows จัดการข้อมูลอะไรพร้อมแล้วให้เปิดโปรแกรม HSPL (รุ่นล่าสุดเป็น HSPL4) ขึ้นมาในโหมด Admin แล้วเลือกรุ่นของ SPL ในเครื่องให้ถูกต้อง ต่อด้วยเลือก HSPL ที่จะติดตั้ง หากคุณต้องการติดตั้ง OS เป็น 2 ระบบแบบของผม ต้องเลือก HSPL เป็นเวอร์ชั่น 2.08 เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะติดตั้ง MAGLDR ไม่ได้
  • หลังจากติดตั้ง HSPL เสร็จ เครื่องจะรีเซ็ต แล้วบูตเข้า Windows Mobile ตามปกติ (หากต้องการตรวจสอบก็กดปุ่มVolume Down ค้างไว้ตอนบูต จะเห็น SPL เป็น SPL-2.08.HSPL)
  • ติดตั้ง Radio เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ของผมใช้รุ่น 2.15.50.14 (ตามความต้องการของ OS) โดยเปิด CustomRUU ขึ้นมาในโหมด Admin
  • หลังจากนั้น ให้ล้างข้อมูลใน NAND ทิ้งโดยใช้โปรแกรม Task29 ในโหมด Admin จะทำให้ข้อมูลใน NAND หายไปหมด
  • หลังจากลง Task29 เสร็จ เครื่องจะรีเซ็ตให้กดปุ่ม Volume Down ค้างไว้เพื่อเข้าโหมด Tri-Color หากกดไม่ทัน ให้กดปุ่ม Reset แล้วกดปุ่ม Volume Down อีกครั้ง (หากพลาดอีกก็ Reset อีก)
  • เมื่อเข้าโหมด Tri-Color ได้แล้ว รอให้ขึ้นข้อความ USB ตรงพื้นที่สีขาว ให้ติดตั้ง MAGLDR ลงไป ผมใช้เวอร์ชั่น 1.13 (ตามที่ OS รองรับ) โดยเปิดไฟล์ ROMUpdateUtility.exe ในโหมด Admin
  • เมื่อติดตั้ง MAGLDR เสร็จ เครื่องจะรีเซ็ต เปิด MAGLDR ขึ้นมา
  • ใช้ปุ่ม Volume Up และ Volume Down เลื่อนไปยัง Services กดปุ่ม โทรออก จะเปลี่ยนเป็นหน้า Seveices menuแล้วเลื่อนไปที่ BootSettings กดปุ่ม โทรออก จะเป็นหน้า AutoBoot เล่นไปที่ AlwaysMenu กดปุ่ม โทรออก จะขึ้นข้อความถาม "Show boot menu always at boot?" ให้ตอบ YES โดยกดปุ่ม โทรออก หลังจากนี้ MAGLDR จะแสดงทุกครั้งที่รีเซ็ตเครื่อง (หากต้องการปิดก็กดปุ่ม วางสาย ในหน้าสุดท้ายแทน)

การติดตั้ง Windows Phone 7

Windows Phone 7 ต้องติดตั้งบน NAND (หน่วยความจำหลักภายใน) เท่านั้น จึงต้องทำก่อนติดตั้ง Android เสมอ
  • (หลังจากเลือก AlwaysMenu เสร็จแล้ว มันจะกลับมาที่หน้าเมนูหลัก) ให้ใช้ปุ่ม Volume Down เลื่อนไปจนถึง USB Flasher แล้วกดปุ่ม โทรออก
  • รอจนหน้าจอขึ้น USB... USB แล้วติดตั้ง Windows Phone 7 ลงใน NAND ก่อนเป็นอย่างแรก โดยการรัน DWI.exe ในโหมด Admin (หาก DWI บอกว่าไม่เจอมือถือ ลองใช้เปลี่ยนไปใช้ช่อง USB ด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์แทน)
  • รอจน DWI ติดตั้ง Windows Phone ลงไปใน NAND จนเสร็จ เครื่องจะรีเซ็ต
  • ในหน้า MAGLDR ให้เลือก WPH เครื่องจะบูตเข้า Windows Phone 7 ให้ทำตามหน้า Get Start จนเสร็จ ทดสอบการใช้งานว่า Windows Phone ใช้ได้สมบูรณ์ดี และรอจน Windows 7 ติดตั้ง driver ที่จำเป็นจนเสร็จ ก็ให้สั่ง reset your phone (Factory Reset) จากหน้า About ใน Windows Phone (เปิดเมนูหลักขึ้นมา ไปที่ Settings > about)
  • เมื่อเครื่องรีเซ็ตมันจะกลับมาค้างอยู่ที่ MAGLDR ให้ถอด microSD ออกมา แล้วเสียบเข้ากับตัวอ่านการ์ด
  • เปิดโปรแกรม MiniTools Partition Wizard Home Edition ในเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
  • บน disk ที่เป็น microSD จะเห็นพาร์ทิชั่นอยู่ 2 พาร์ทิชั่น คือ ขนาด 200MB กับที่เหลือทั้งหมดเป็น unformattedให้ลบ unformatted partition ทิ้ง โดยการคลิกขวาที่พาร์ทิชั่นนั้น แล้วเลือก Delete แล้วคลิก Apply รอจนโปรแกรมทำงานเสร็จ
  • สร้างพาร์ทิชั่นใหม่ขึ้นมา โดยการคลิกขวาที่ พี้นที่ Unallocated เลือก Create ในช่อง Create As ให้เลือกเป็นLogical และ File System ให้เลือกเป็น Unformatted ในช่อง Size And Location ปรับขนาดให้มีขนาดมากกว่าครึ่งหนึ่งของการ์ด และ ย้ายตำแหน่งของพาร์ทิชั่นมาอยู่ด้านหลังสุด ของการ์ด คลิกปุ่ม OK แล้วคลิก Apply
  • หลังจากนั้น ให้ถอดการ์ดออกไปเสียบกลับเข้ามือถือ
  • เลือกบูตเป็น WPH แล้วทำตาม Get Start อีกครั้งจนเสร็จ แล้วก็สั่งปิดเครื่อง
  • รอให้ปิดเครื่องสนิทจริง ๆ (รอสักพักใหญ่ ๆ เป็นการดี) จากนั้นถอด microSD ออกมา เสียบกลับเข้าเครื่องอ่านการ์ด
  • เปิดMiniTools Partition Wizard Home Edition ขึ้นมาอีกครั้ง คลิกขวาที่พาร์ทิชั่นขนาด 200MB เลือกMove/Resize ขยายขนาดของพาร์ทิชั่นนี้ให้เต็มพื้นที่ที่เหลือ (ถ้าขยายไม่ได้ แสดงว่าทำขั้นตอนก่อนหน้าผิดพลาด ให้กลับไปทำในขั้นตอน reset your phone ใหม่อีกครั้ง) แล้วสั่ง Apply
  • สั่งฟอร์แมตพาร์ทิชั่นเมื่อกี้ (อันที่ขยายมาจาก 200MB) ให้ File System เป็น FAT32 และ Cluster Size เป็น 32k หรือ 64k (ผมเลือก 32k แบบไม่มีเหตุผลประกอบ) แล้วสั่ง Apply
  • คลิกขวาที่พาร์ทิชั่นที่เป็น unformatted (อันนี้ของ Windows Phone) แล้วเลือก Modify > Set Partition as Primary คลิก Apply

ติดตั้ง Android SD version

สำหรับ Android ที่จะใช้ต้องเป็นเวอร์ชั่น SD เท่านั้น โดยเลือกจากเว็บ HD2Roms หรือจาก xda-developer ก็ได้ สำหรับผมเลือก AmeriCan Android ที่พัฒนามาจาก CyanogenMod แต่ MIUI ก็น่าสนใจเหมือนกัน เห็นคนพูดถึงกันเยอะ แต่ผมเองยังไม่ได้ลองเล่นดูเลยครับ
  • คัดลอกทั้งโฟลเดอร์ Android ที่แตกออกมาไปไว้ใน / (root) ของการ์ด
  • ถอดการ์ดออกไปเสียบกลับเข้ามือถือ แล้วเปิดเครื่อง
  • เมื่อขึ้นหน้าจอ MAGLDR ให้เลือก Services > BootSettings > AD SD Dir แล้วเลือก Android มันจะกลับไปหน้าหลัก ให้เลือก Boot AD SD มันจะบูตเข้า Android ให้รออีกพักใหญ่ ๆ (ของผมประมาณ 5 นาที - ครั้งต่อไปจะไม่นานเท่านี้) หากไม่ผิดพลาดอะไร จะมีตัว Android ออกมาวิ่งเล่น
  • ให้ตั้งค่าต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
ถ้าต้องการใช้ Windows Phone ก็ให้เลือก WPH แต่ถ้าจะใช้ Android ก็ให้เลือก Boot AD SD

คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ

  • ไม่ควรเปิด Wi-Fi, GPS, 3G ทิ้งไว้ เพราะจะทำให้แบตหมดเร็ว
  • ห้ามบูตเข้า Windows Phone โดยที่ไม่ได้ใส่ microSD ที่ใช้ทำเด็ดขาด

1 ความคิดเห็น:

  1. ต้องการความช่วยเหลือค่ะ HTC HD2 ติดตั้ง Android แล้ว จู่ๆ play store หาย แก้ไขไงดีคะ

    ตอบลบ